SEO คืออะไร? มีคำอธิบายแบบสั้นๆ

คุณมีเว็บไซต์หรือไม่? และคุณต้องการเพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณหรือไม่? หากคำตอบคือใช่ ก็ไม่มีข้อสงสัยใดๆ SEO ควรเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามทางการตลาดของคุณ SEO เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการดึงดูด
และรักษาผู้คนให้เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ แต่ SEO เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง? ในโพสต์นี้ เราจะอธิบายว่า SEO คืออะไรและคุณสามารถเริ่มต้นได้อย่างไร!

SEO คืออะไร?

SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization เป็นการปรับแต่งหน้าเว็บของคุณให้ติดอันดับต้นๆ ในผลการค้นหาของ Google และเครื่องมือค้นหาอื่นๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ผู้คนจะมีแนวโน้มที่จะเห็นเว็บไซต์ของคุณมากขึ้นเมื่อค้นหาทางออนไลน์ SEO เน้นที่การปรับปรุงอันดับใน ผลการค้นหาแบบออร์แกนิก (หรือที่เรียกว่าไม่เสียเงิน)

ในภาพด้านบน เราจะเห็นผลลัพธ์แรกๆ เมื่อมีคนค้นหาคำหลักว่า ‘ร้บสร้างบ้าน‘ ในกรณีนี้ ช่างซ่อมบ้าน.com คือผลลัพธ์แรก ซึ่งหมายความว่าหน้าเกี่ยวกับ ร้บสร้างบ้าน ของเว็บไซต์นี้ จะติดอันดับ 1 ในคำค้นหานี้ แนวคิดเบื้องหลัง SEO ก็คือ
เมื่อคุณปรับแต่งหน้าของคุณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เราจะสามารถไต่อันดับขึ้นไปได้และกลายเป็นผลลัพธ์แรกๆ ที่ผู้คนเห็น ซึ่งจะทำให้เราได้รับการคลิกและการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น!

แม้ว่าตัวอย่างนี้จะแสดงเฉพาะผลการค้นหาแบบออร์แกนิก แต่โฆษณาหรือ
ผลการค้นหาแบบสมบูรณ์ก็อาจแสดงอยู่ที่ด้านบนสุดได้เช่นกัน อาจมี Google Images หรือผลิตภัณฑ์บางรายการจาก Google Shopping ก็ได้ มีความเป็นไปได้มากมายที่ Google จะแสดงนั้นอาจขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ Google ทราบเกี่ยวกับผู้ค้นหา (เช่น ประเทศที่ผู้ค้นหาอาศัยอยู่)

ทำไม SEO ถึงสำคัญ?

คุณสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาเพราะต้องการให้ผู้คนซื้อผลิตภัณฑ์ของคุณ สมัครใช้บริการ หรืออ่านเนื้อหาของคุณ ไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอย่างไรคุณก็ต้องการให้ผู้คนเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นเจ้าของร้านโดนัทในอัมสเตอร์ดัม คุณต้องการให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับ 1 เมื่อผู้คนค้นหาคำว่า “donuts Amsterdam” ใน Google เพราะโอกาสที่ผู้คนจะคลิกเว็บไซต์ของคุณจะสูงขึ้นมากเมื่อเว็บไซต์ของคุณอยู่ในผลการค้นหาอันดับต้นๆ!

แต่คุณจะทำอย่างไรให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ คำเดียว: การเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา! SEO เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการดึงดูดผู้คนให้เข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งมีประโยชน์อย่างยิ่งหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีเงินมากพอที่จะใช้ในการโฆษณา

อะไรเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะอยู่ในอันดับสูงแค่ไหน?

การจัดอันดับผลลัพธ์แต่ละรายการนั้นกำหนดโดย
อัลกอริทึมของ Google แม้ว่าบางส่วนของอัลกอริทึมของ Google จะยังคงเป็นความลับ แต่ประสบการณ์หลายปีในด้าน SEO ทำให้เราเข้าใจถึง
ปัจจัยการจัดอันดับ ที่สำคัญที่สุด ปัจจัยการจัดอันดับเหล่านี้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท:

ปัจจัย SEO บนหน้าเว็บไซต์ (On Page)
การจัดอันดับหน้าเว็บของคุณนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยบนหน้าเว็บ เป็นส่วนหนึ่ง ปัจจัยบนหน้าเว็บคือสิ่งต่างๆ บนไซต์ของคุณที่คุณมีอิทธิพลโดยตรง ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่ ด้านเทคนิค เช่น คุณภาพของโค้ดและความเร็วเว็บไซต์ ของคุณ แง่มุมที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา เช่น โครงสร้างของเว็บไซต์ของคุณหรือคุณภาพของเนื้อหาบนเว็บไซต์ของคุณ
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัย SEO บนเพจที่สำคัญทั้งหมดที่คุณสามารถนำมาใช้ได้
ปัจจัย SEO นอกเว็บไซต์ ( Off Page)
นอกจากปัจจัย SEO บนหน้าแล้ว อันดับของคุณยังถูกกำหนดโดยปัจจัย SEO นอกหน้าด้วย ปัจจัยเหล่านี้ได้แก่:ลิงก์จากเว็บไซต์อื่น โดยเฉพาะจำนวนและคุณภาพของลิงก์ที่ชี้ไปยังเว็บไซต์ของคุณนั้นมีความสำคัญ ยิ่งมีเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องมากเท่าใด ตำแหน่งของคุณใน Google ก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น 8วามสนใจ ทางโซเชียลมีเดียการแข่งขันของคุณในกลุ่มธุรกิจเฉพาะของคุณในบางกลุ่มธุรกิจ การจัดอันดับนั้นยากกว่ากลุ่มธุรกิจอื่นมาก ดังนั้น การแข่งขันในตลาดของคุณจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อโอกาสในการจัดอันดับของคุณกิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากเว็บไซต์ของคุณเองแม้ว่าจะไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ปัจจัย SEO นอกหน้าเหล่านี้อาจมีอิทธิพลได้ยากกว่า

SEO แบบองค์รวม: กลยุทธ์ระยะยาว

SEO แบบองค์รวม เป้าหมายหลัก คือการสร้างและดูแลเว็บไซต์ที่ดีที่สุดคุณไม่พยายามหลอก Google แต่เราต้องลงทุนเวลาและความพยายามของคุณ ในกลยุทธ์ระยะยาวที่ยั่งยืนเพราะหากคุณพยายามปรับปรุงหน้าเว็บของคุณและดำเนินการเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูง โอกาสที่คุณจะได้รับการจัดอันดับก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว Google ต้องการที่จะนำเสนอผลลัพธ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้สำหรับคำค้นหาของพวกเขา และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดมักจะมีเนื้อหาที่ยอดเยี่ยม เป็นมิตรกับผู้ใช้ รวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่าย

แนวทางSEO แบบนี้ไม่เพียงแต่ดีต่อการจัดอันดับของคุณเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการได้เร็วขึ้นอีกด้วย และยังดีต่อความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอีกด้วย!